สูตรการทำกิมจิผักกาดขาวกินเอง

          

           สำหรับอาหารสามัญประจำมื้อของชาวเกาหลีจะมีกิมจิ หรือผักดอง เป็นตัวชูรสที่แทบจะขาดไปเสียไม่ได้ เป็นทั้งเครื่องเคียง ของแกล้ม และส่วนผสมของอาหารบางเมนู รสชาติออกเปรี้ยว เคี้ยวกรุบ ๆ ซึ่งกิมจิที่นิยมมากและเป็นที่รู้จักมากที่สุด ก็เห็นจะเป็น กิมจิผักกาดขาว วันนี้กระปุกดอทคอมจึงนำสูตรกิมจิผักกาดขาวของ คุณ Hamilton มาฝากคออาหารเกาหลีกันค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม

1.         ผักกาดขาว ขนาดใหญ่ 5-6 หัว
2.         หัวไชเท้า 2-3 หัว
3.         แครอท 1 หัว
4.         ต้นหอม 2 กำ
5.         ใบกุยช่าย 1 กำ
6.         กระเทียมจีนกลีบใหญ่ 10-12 กลีบ
7.         ขิง 1 แง่งเล็ก
8.         หอมใหญ่ 1/2 หัว
9.         แอปเปิล 1/2 ลูก
10.         สาลี่เกาหลี 1/2 ลูก
11.         พริกเกาหลีชนิดสับหยาบ 1-2 ถ้วย
12.         เกลือไทย 2-3 ถ้วย
13.         น้ำตาล 1/2 ถ้วย
14.         แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วย
15.         น้ำ 3-4 ถ้วย
16.         น้ำปลา 1 ถ้วย
17.         ชามอ่างขนาดใหญ่ 1 ใบ
18.         ตระกร้าขนาดใหญ่ 1 ใบ

วิธีทำ กิมจิผักกาดขาว

          1. ผ่าแบ่งครึ่งหัวผักกาดขาวแล้วล้างน้ำให้สะอาด

           2. นำชามอ่างขนาดใหญ่ ใส่น้ำประมาณครึ่งหนึ่งแล้วใส่เกลือลงไปประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ ค้นให้ละลายแล้วพักไว้

           3. โรยเกลือที่ละน้อยลงในใบผักกาดขาวแต่ละชั้นจนครบทุกชั้น แล้วแช่ลงไปในน้ำเกลือที่ผสมไว้จนครบทุกชิ้น เสร็จแล้วพักไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง และต้องคอยกลับผักทุก 1 ชั่วโมง นำจากผักจะเริ่มค่อย ๆ ออกมาจนมิดผักค่ะ

           4. นำผักกาดมาล้างน้ำให้สะอาด 3 ครั้ง

           5. เมื่อล้างเสร็จแล้ว นำผักแต่ละชิ้นบีบน้ำออกให้แห้ง และพักผักไว้ในตะกร้า

           6. นำแป้งข้าวเหนียวและน้ำ 3-4 ถ้วย ผสมให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟปานกลาง ต้องค้นตลอดเวลาไม่ให้ติดก้น และไม่ให้จับกันเป็นก้อน พอเริ่มร้อนลดไฟลง พอแป้งเริ่มเหนียว ใส่น้ำตาลลงไป เร่งไฟเล็กน้อย แป้งที่กวนจะเงาขึ้น ปิดไฟแล้วพักไว้ให้เย็น

           7. นำส่วนผสมของเครื่องปรุงมาเตรียมปอกเปลือกและหั่น

             8. ปอกเปลือกให้เรียบร้อย

             9. หั่นหัวไชเท้า และแครอท เป็นเส้นยาวขนาดกว้างประมาณครึ่งเซนติเมตร หั่นต้นหอมและใบกุยช่าย ยาว 2 นิ้ว

           10. นำกระเทียม ขิง หัวหอม แอปเปิล และสาลี่เกาหลี ที่ปอกเปลือกและหั่นแล้ว ใส่ลงในที่ปั่น และปั่นให้ละเอียดเข้ากันดี เทแป้งข้าวเหนียวที่เย็นแล้วกับส่วนผสมที่ปั่นลงให้อ่างผสม

ตัวอย่างพริกเกาหลีแบบหยาบ มีขายที่สยามพารากอน ดิ เอ็มโพเรียม และวิลล่ามาร์เก็ตทุกสาขาค่ะ

ลักษณะพริกเกาหลีแบบหยาบ

           11. ใส่น้ำปลาและพริกเกาหลีลงในชามผสม

           12. ตามด้วยใส่ผักทั้งหมดที่หั่นไว้ลงไปในชามเครื่องปรุง

           13. ผสมให้เข้ากัน ชิมและปรุงรสเพิ่มได้ตามความชอบ ถ้ารสแบบเกาหลีจะเค็มนำหวานตาม แต่ถ้าชอบหวานหน่อยก็สามารถเติมน้ำตาลเพิ่มได้นะคะ

           14. นำกล่องพลาสติกหรือขวดโหลแก้วไปลวกน้ำร้อนเพื่อฆ่าเชื้อให้สะอาด จากนั้นนำผักแต่ละชิ้นที่พักไว้มาค่อย ๆ ทาซอสเครื่องปรุงให้ทั่วทุกชั้น เรียงใส่ในพาชนะให้เรียบร้อยค่ะ

           15. ถ้าต้องการให้กิมจิมีรสเปรี้ยวให้หมักนอกตู้เย็น 1 คืนค่ะ แต่ถ้าไม่ชอบรสเปรี้ยวให้นำไปแช่ในตู้เย็นได้เลยค่ะ

           หมักกิมจิในตู้เย็นประมาณ 2 อาทิตย์ก็ทานได้ แต่ถ้าอยากให้อร่อยต้องหมักประมาณ 2 เดือนขึ้นไปค่ะ และควรหมักไว้ในตู้เย็นที่มีอุณหภูมิประมาณ 3 องศา กิมจิจะมีรสเปรี้ยวอย่างช้า ๆ ขึ้นอยู่กับเวลาที่เราหมักค่ะ

         
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

 คุณ Hamilton

Read More

วิธีทำไก่ย่างมะนาวอะโวคาโด เมนูควบคุมน้ำหนักสำหรับคนท้อง

          คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์บางท่านอาจจะตามใจปากไปบ้างจนน้ำหนักขึ้นเยอะเกินมาตรฐาน เพราะ ในขณะท้องนั้นน้ำหนักไม่ควรเพิ่มขึ้นเกิน 12-15 กิโลกรัมจากน้ำหนักตัว แถมบางคนพอไปตรวจร่างกายก็อาจพบกับปัญหาน้ำตาลสูงขึ้น หรือบางท่านอาจจะตรวจพบเบาหวาน นั่นก็เป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ดีแน่ วันนี้ กระปุกดอทคอมจึงนำเมนูควบคุมน้ำหนักของคุณแม่กับเมนู ไก่ย่างมะนาวอะโวคาโด สุดอร่อยแถมยังมีปริมาณน้ำตาลที่ต่ำห่างไกลเบาหวานอีกด้วย


สิ่งที่ต้องเตรียม

1.           เนื้ออกไก่ 2 ชิ้น
2.           พริกไทยป่น และเกลือป่นปริมาณเล็กน้อยสำหรับหมักไก่
3.           อะโวคาโด (หั่นเป็นชิ้นยาว) 1 ลูก
4.           มะนาว 1 ลูก
5.           พริกไทยป่นสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

          1. หมักอกไก่กับเกลือป่น และพริกไทยป่นจนทั่ว พักไว้สักครู่

          2. นำเนื้ออกไก่ที่หมักไว้ไปย่าง หรืออบจนสุก นำออกจากเตา จัดใส่จาน

          3. เวลารับประทานให้วางไก่ย่างลงบนอะโวคาโด บีบมะนาว และโรยพริกไทยป่น

          สำหรับคุณแม่ท่านใดที่เป็นคนอ้วนง่ายแล้วอยากจะให้หุ่นขณะท้องอยู่ไม่อ้วนจน เกินไปก็ลองนำเมนูไก่ย่างมะนาวอะโวคาโดนี้ไปลองทำกันดูนะคะ

Read More

วิธีทำซุปมิโสะ ซดง่าย ๆ ได้โปรตีนสำหรับคุณแม่

          เมนูซุปสไตล์ญี่ปุ่นอย่างซุปมิโสะ เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นที่ทำง่าย ๆ คุณแม่สามารถทำไว้รับประทานร้อน ๆ ได้ทั้งวัน เป็นซุปที่อุดมไปด้วยโปรตีนจากเต้าหู้เพื่อเสริมสร้างเซลล์ต่าง ๆ และเนื้อหนังให้กับทารกในครรภ์ และยังย่อยง่ายอีกด้วย วันนี้กระปุกคุกกิ้งได้นำสูตรการทำซุปมิโสะมาฝากคุณแม่ได้ลองทำกันดูนะคะ


สิ่งที่ต้องเตรียม

1.           น้ำซุปปลา (หรือน้ำซุปไก่) 500 มิลลิลิตร
2.           มิโสะ 1 ช้อนโต๊ะ
3.           แครอท 50 กรัม
4.           หัวไชเท้า 50 กรัม
5.           เต้าหู้ขาวแบบนิ่ม (หั่นเต๋า) 1 ก้อน
6.           ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

          1. เทน้ำซุปไก่ใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่มิโสะคนผสมจนละลาย

          2. ใส่แครอท และหัวไชเท้าลงต้มจนเดือดอีกครั้ง จากนั้นใส่เต้าหู้ขาวลงต้มจนสุก ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย


          หรือคุณแม่จะเพิ่มสาหร่ายวากาเมะเข้าไปด้วย ก็ช่วยเพิ่มไอโอดีนบำรุงสมอง และสติปัญญาของลูกน้อยได้อีกด้วยนะคะ

Read More

วิธีทำเต้าหู้ทอด อาหารว่างย่อยง่ายสำหรับคนท้อง

          เวลาตั้งครรภ์นั้น การเลือกรับประทานอาหารจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องระวัง คุณแม่หลายท่านก็อยากจะรับประทานอะไรตามใจชอบอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะอาหารว่าง วันนี้กระปุกคุกกิ้งจึงมีอีกหนึ่งเมนูอาหารว่างจากเต้าหู้ ที่เป็นสุดยอดแหล่งโปรตีนที่สำคัญสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อย่าง เต้าหู้ทอด ที่ทั้งอร่อย และได้ประโยชน์จากโปรตีนแทนการรับประทานเนื้อสัตว์ด้วย


สิ่งที่ต้องเตรียม

1.           เต้าหู้ขาวแบบแผ่น 1 แผ่น
2.           น้ำมันพืชสำหรับทอด
3.           น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
4.           น้ำส้มสายชู ½ ถ้วย
5.           เกลือป่น 1 ช้อนชา
6.           พริกชี้ฟ้าซอย 1 เม็ด
7.           งาขาว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

          1. ตัดเต้าหู้เป็นชิ้นพอดีคำ ตั้งกระทะใส่น้ำมันจนร้อน ใส่เต้าหู้ลงทอดไฟอ่อนจนเหลืองกรอบ ตักขึ้น สะเด็ดน้ำมัน เตรียมไว้

          2. ผสมน้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู และเกลือป่นลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวจนส่วนผสมเดือดและข้น ใส่พริก โรยหน้าด้วยงาขาว ตักใส่ถ้วย รับประทานคู่กับเต้าหู้ทอดที่เตรียมไว้

          แค่นี้คุณแม่ก็ได้เมนูอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพไว้รับประทานเล่น ๆ แล้ว ได้ประโยชน์ แถมอร่อยอีกด้วยค่ะ

Read More

วิธีทำเต้าหู้นึ่งซีอิ๊วญี่ปุ่น เมนูโปรตีนย่อยง่ายสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

          สำหรับ คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้น การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงนับว่าเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง แต่โปรตีนจากเนื้อสัตว์จำพวกเนื้อวัว หรือเนื้อหมู อาจจะทำให้ย่อยยาก เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะไม่ค่อยสบายท้อง จนทำให้รู้สึกอยากอาเจียน คุณแม่ลองหันมารับประทานโปรตีนจากเต้าหู้ หรือไข่แทนจะดีกว่า เพราะสามารถย่อยได้ง่ายกว่า และมีปริมาณโปรตีนสูงกว่าเนื้อสัตว์บางชนิดอีกด้วย และยังมีสารเลซิตินที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาท และมีกากใยอาหารที่ช่วยการทำงานของลำไส้ด้วยค่ะ

          สำหรับเมนูโปรตีนจากเต้าหู้ที่กระปุกคุกกิ้งนำมาฝากในวันนี้คือ เต้าหู้นึ่งซีอิ๊ว ทำได้ง่าย ๆ อร่อย และได้ประโยชน์กับคุณแม่และคุณลูกในครรภ์ ไปลองทำกันดูนะคะ

สิ่งที่ต้องเตรียม

1.           เต้าหู้ขาว (หั่น 4 ส่วน) 1 ก้อน
2.           ขิงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
3.           แครอทซอย 1ช้อนโต๊ะ
4.           ต้นหอม (หั่นเป็นท่อนยาว) 1 ช้อนโต๊ะ
5.           ซีอิ๊วญี่ปุ่น 3 ช้อนโต๊ะ (หรือปริมาณตามชอบ)
6.           น้ำซุปไก่ 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

          วางเต้าหู้ขาวในภาชนะสำหรับนึ่ง โรยหน้าด้วยขิง และแครอท ใส่ซีอิ๊วญี่ปุ่น น้ำซุปไก่ ปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหาร นำไปนึ่งนานประมาณ 10 นาที ให้ส่วนผสมซึมเข้าเนื้อเต้าหู้ รับประทานขณะร้อน ๆ

Read More

วิธีทำปลาทูต้มมะดัน เพิ่มโอเมก้า 3 บำรุงสมองลูกน้อยในครรภ์

          กรด ไขมันดีเอชเอ (DHA) หรือโอเมก้า 3 เป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่จำเป็นสำหรับคุณแม่และทารกในครรภ์ เป็นกรดไขมันที่มีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์สมอง และช่วยพัฒนาสมองทารก ซึ่งในช่วงระยะเริ่มแรกของการตั้งครรภ์เป็นช่วงที่สมองของทารกกำลังมี พัฒนาการ กำลังแบ่งเซลล์ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายกรดไขมันชนิดนน้จึงสำคัญมาก และอาหารที่เต็มไปด้วยกรดไขมันดีเอชเอ (DHA) หรือโอเมก้า 3 ก็จำพวกปลาทะเลน้ำลึกนั่นเอง

          วันนี้กระปุกคุกกิ้งจึงนำสูตรปลาทูต้มมะดันที่ช่วยเพิ่มกรดไขมันดีเอชเอ (DHA) หรือโอเมก้า 3 ให้กับลูกน้อย แถมยังเป็นเมนูเปรี้ยว ๆ ช่วยเจริญอาหารให้คุณแม่ที่กำลังมีอาการแพ้ท้องอีกด้วยค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม

1.           น้ำซุปไก่ 250 มิลลิลิตร
2.           ปลาทูสด 2 ตัว
3.            มะดันสด 3 ลูก (หรือตามความชอบ)
4.            พริกขี้หนูสวนทุบ ปริมาณตามชอบ
5.             ผักชีสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

          1.ต้มน้ำซุปจนเดือด ใส่ปลาทู และมะดันลงต้มจนสุก ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตา

          2.ใส่พริกขี้หนูสวนที่ทุบแล้วลงในถ้วย ตักปลาทูต้มมะดันใส่ โรยหน้าด้วยผักชี พร้อมรับประทาน

          เมนูปลาทูต้มมะดันเปรี้ยวแซบเสิร์ฟพร้อมคุณประโยชน์จากปลาทูเพื่อสุขภาพของ คุณแม่ และพัฒนาการของสมองที่ดีสำหรับทารก อย่าลืมลองไปทำรับประทานกันนะคะ รับรองว่าคุณแม่ที่แพ้ท้องก็สามารถรับประทานได้อย่างอร่อยทีเดียว

Read More

วิธีทำผัดบรอกโคลีกับเห็ดแชมปิญอง สำหรับคุณแม่เริ่มตั้งครรภ์

          ผักใบเขียวอย่างบรอกโคลีเป็นแหล่งรวมกรดโฟลิกหรือโฟเลท ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบประสาทที่ช่วยป้องกันความผิดปกติของสมอง และไขสันหลังของทารกในครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์ 0-3 เดือน คุณแม่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรับประทานอาหารที่มีสารโฟเลท ซึ่งมีการศึกษาพบว่า ถ้าในขณะตั้งครรภ์แล้วคุณแม่ขาดกรดโฟลิกมีโอกาสสูงที่ทารกจะเกิดความพิการ ทางสมอง ฟังดูน่ากลัวใช่ไหมล่ะคะ ตัวอย่างอาหารที่มีกรดโฟเลทสูงก็อย่างเช่น ในผักสีเขียว ผักโขม ผลไม้ ถั่ว และธัญพืช ตับหมู หมูเนื้อแดง ขนมปังโฮลวีต เป็นต้น

          เมนูอร่อยสำหรับคุณแม่เริ่มตั้งครรภ์ที่กระปุกคุกกิ้งนำมาฝากในวันนี้ก็เป็น ผัดบรอกโคลีที่เต็มไปด้วยกรดโฟเลท แถมยังเพิ่มโปรตีนจากเห็ดแชมปิญองเพื่อการเสริมสร้างเซลล์ต่าง ๆ ของลูกน้อยในครรภ์อีกด้วยกับ เมนูบรอกโคลีผัดเห็ดแชมปิญอง ลงมือทำกันเลยค่ะ


สิ่งที่ต้องเตรียม

1.           บรอกโคลี (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ) 200 กรัม
2.           น้ำมันมะกอกสำหรับผัด 3 ช้อนโต๊ะ
3.           เห็ดแชมปิญอง (หั่นบาง) 100 กรัม
4.           พริกหวานสีเหลือง-แดง 100 กรัม
5.           น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
6.           น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
7.           น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

วิธีทำ

         1. ลวกบรอกโคลีในน้ำเดือด (ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย) ประมาณ 1 นาที ตักผักทั้งหมดแช่ในน้ำเย็นจัด เตรียมไว้

         2. ใส่น้ำมันมะกอกสำหรับผัดลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟจนร้อน ใส่บรอกโคลีลงผัด ตามด้วยแชมปิญอง และพริกหวาน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย ผัดจนเข้ากันดี ตักใส่จาน พร้อมรับประทาน

         เมนูบรอกโคลีผัดเห็ดแชมปิญองร้อน ๆ พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ รับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ก็ได้เมนูสุขภาพที่ดีสำหรับคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์แล้ว

Read More